ปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ได้เข้ามามีบทบาทในการทดแทนรถน้ำมันอย่างกว้างขวางพอสมควร จะเห็นได้ว่ามีค่ายยักษ์ใหญ่ในต่างประเทศหลายๆ ค่ายเริ่มทยอยนำรถเข้ามาสู่ประเทศไทย เช่น BYD, Testa ฯลฯ หรือค่ายในประเทศไทยก็ได้มีการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าของตัวเองมากขึ้น วันนี้เรามาทำความรู้จักกับรถไฟฟ้าให้มากยิ่งเพื่อให้เราได้มีความมั่นใจในการใช้งานรถไฟฟ้า (EV) ให้มากขึ้น
.
5 เหตุผลสำคัญที่ต้องเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาด
รถยนต์ไฟฟ้ามีกี่ประเภท
ปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้ายังมีทั้งแบบอาศัยเครื่องยนต์เผาไหม้ร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ทั้งในส่วนการขับเคลื่อนและผลิตพลังงานไฟฟ้าเก็บสะสมในแบตเตอรี่ หรือเป็นแบบที่ใช้เชื้อเพลิงอื่นอย่างแก๊สไฮโดรเจนมาผลิตพลังงานไฟฟ้าโดยใช้เทคโนโลยีเซลล์เชื้อเพลิงด้วยดังนั้น จึงแบ่งรถยนต์ไฟฟ้าออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่
1. รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (Battery Electri Vehicle : BEV)
เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานไฟฟ้า 100% โดยใช้การขับเคลื่อนจากแบตเตอรี่ในการขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งต้องเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานภายนอก และไม่มีเครื่องยนต์ที่ต้องเผาไหม้เชื้อเพลิงจึงทำให้ไม่มีการปล่อยไอเสียออกมาจากรถยนต์
2. รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด (Hybrid Electric Vehicle : HEV)
ไม่มีช่องเสียบปลั๊กไฟฟ้าชารจ์จากแหล่งพลังงานภายนอก จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีการผสมด้วยเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในการขับเคลื่อนเป็นหลัก ร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าพร้อมแบตเตอรี่ แต่การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงต่ำกว่ารถยนต์ปกติทั่วไป เป็นรถยนต์ที่เป็นยุคเริ่มต้นของการเริ่มปรับเปลี่ยนมาเป็นรถไฟฟ้า
3. รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดปลั๊กอิน (Plug-in Hybrid electric Vehicle : PHEV)
เป็นรถยนต์ที่มีการพัฒนาต่อมาจากระบบแบบไฮบริด แต่มีช่องให้เสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟฟ้าจากแหล่งพลังงงานภายนอก ข้อดีกว่าแบบไฮบริดคือ สามารถวิ่งได้ระยะทางไกลกว่าแบบไฮบริด
4. รถยนต์ไฟฟ้าแบบเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell Electric Vehicle : FCEV)
เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานไฟฟ้าจากการติดตั้งเซลล์เชื้อเพลิง (fuel cell) ที่สามารถผลิตไฟฟ้าได้โดยตรงจากการใช้แก๊สไฮโดรเจนเป็นเชื้อเพลิงในการขับเคลื่อน
.
รถยนต์ Hybrid กับ EV ต่างกันอย่างไร?
พลังงานทางเลือกใหม่ที่จะเข้ามามีบทบาทกับคนใช้รถยนต์อย่างเรา และจะมีบทบาทเพิ่มขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ ใช่เลย...วันนี้เรามาไขข้อข้องใจกันว่า รถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้าต่างกันอย่างไร
รถยนต์ HYBRID
รถยนต์ไฮบริด (HYBRID) คือ รถยนต์ที่ใช้พลังงานสองอย่างผสมระหว่างพลังงานจากน้ำมันเชื้อเพลิงกับพลังงานไฟฟ้าจากมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งหลักการของรถยนต์ไฮบริด จะเป็นการเก็บพลังงานไฟฟ้าไว้ที่แบตเตอรี่ซึ่งถูกผลิตขึ้นมาเฉพาะสำหรับรถยนต์ประเภทนี้ และจะทำงานในช่วงที่เครื่องยนต์ใช้ความเร็วในรอบต่ำหรือจอดรถติดไฟแดง รวมถึงช่วงออกตัวในช่วงที่ใช้ความเร็วไม่มาก จากนั้นเมื่อความเร็วสูงขึ้นระบบจะตัดการทำงานไปที่ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงที่ทำงานกับเครื่องยนต์ปกติ
การทำงานของระบบไฮบริด
1. อัตราการเร่งของเครื่องยนต์จะอยู่ที่ความเร็ว 50 – 112 กิโลเมตร/ชั่วโมง เครื่องยนต์ทำงานพร้อมกับมอเตอร์ แรงบิดจากมอเตอร์จะช่วยให้อัตราเร่งดีขึ้นใช้ในการเร่งความเร็ว
2. รอบการทำงานของเครื่องยนต์ต่ำมอเตอร์ทำงานทั้งหมด เครื่องยนต์ดับใช้แบตเตอรี่อย่างเดียว ถ้าแบตเตอรี่ใกล้หมด เครื่องยนต์จะทำงานปั่นไปให้มอเตอร์ขาร์จกลับเข้าแบตเตอรี่
3. รอบการทำงานของเครื่องยนต์ขณะเร่งสูงและมีความเร็วคงที่ เกิดแรงบิดเครื่องยนต์เต็มที่ ทำให้รับกำลังมาจากเครื่องยนต์แล้วชาร์จกลับเข้าแบตเตอรี่
4. ขณะที่ปล่อยคันเร่ง เครื่องยนต์จะหยุดทำงาน พลังงานจากล้อจะย้อนเข้ามาชาร์จกลับให้มอเตอร์เข้าแบตเตอรี่ระบบไฮบริดใช้มอเตอร์ไฟฟ้าสองตัว ตัวแรกใช้ขับเคลื่อน ตัวสองให้ชาร์จกลับและแปลงพลังงานกลเป็นไฟฟ้าจ่ายมอเตอร์ขับเคลื่อนได้โดยตรง โดยทั้งสองตัวนี้จะหมุนตรงข้ามกัน
รถยนต์ไฟฟ้า EV
รถยนต์ไฟฟ้า EV (Electric Vehicle) เป็นรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นตัวขับเคลื่อน 100% และสามารถชาร์จไฟได้อย่างสม่ำเสมอเมื่อแบตเตอรี่หมด รถยนต์ไฟฟ้ามีส่วนประกอบที่สำคัญในการขับเคลื่อน คือ แบตเตอรี่ อุปกรณ์แปลงกระแสไฟฟ้า และมอเตอร์ไฟฟ้า
การทำงานของรถยนต์ไฟฟ้า
เริ่มต้นจากแบตเตอรี่ที่เป็นแหล่งเก็บพลังงานไฟฟ้ากระแสตรง ต่อมาเป็นตัวแปลงกระแสไฟฟ้าจะดึงพลังงานจากแบตเตอรี่ไปเปลี่ยนเป็นไฟฟ้ากระแสสลับและส่งไปยังมอเตอร์เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนรถยนต์ เรียกได้ว่าเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่สมบูรณ์ ซึ่งทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น ทั้งค่าซ่อมบำรุง และค่าพลังงานไฟฟ้ามีราคาน้อยกว่าพลังงานเชื้อเพลิง ที่สำคัญที่สุดรถยนต์ไฟฟ้าไม่มีการปล่อยไอเสียจึงไม่สร้างมลภาวะให้แก่โลกและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
หากสรุปให้เข้าใจง่ายๆ ระหว่างรถไฮบริดและรถไฟฟ้า
ไฮบริด คือ รถยนต์ที่ผสมระหว่างเครื่องยนต์พลังงานจากน้ำมันกับมอเตอร์พลังงานจากไฟฟ้า
EV คือ รถยนต์ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อน 100% ไม่มีเครื่องยนต์
ปัจจุบันก็เริ่มมีรถไฟฟ้าเข้ามาจำหน่ายหลายยี่ห้อ รูปทรงสีสันสวยงามแตกต่างกันแต่ละแบรนด์ สามารถเลือกได้ตามชอบและให้เหมาะกับการใช้งานของเราได้เลยค่ะ
.
ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าให้ถูกวิธี
ปัจจุบันการใช้รถยนต์ไฟฟ้ากำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น จะเห็นได้จากค่ายรถยนต์ที่จำหน่ายรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นรวมถึงสถานีที่เป็นจุดชาร์จไฟฟ้าทั่วประเทศ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและรู้ถึงวิธีการชาร์จพลังงานรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อที่เราจะได้ประหยัดค่าใช้จ่ายและรู้วิธีการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าอย่างถูกต้อง ไปดูกันค่ะว่าเราจะชาร์จรถไฟฟ้าย่างไรให้ถูกวิธีกันค่ะ
ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้าน : เป็นวิธีการที่ง่ายที่สุด คือการเช็คความพร้อมก่อนออกเดินทางทุกครั้งเพื่อจะได้มั่นใจว่าเราจะถึงจุดหมาย แต่การชาร์จไฟที่บ้านจะเป็นการชาร์จที่ไม่มีประสิทธิภาพเพราะอาจจะใช้เวลาชาร์จนานถึง 24 ชั่วโมงถึงจะเต็ม หากเราติดตั้งเครื่องชาร์จที่บ้านเป็นเครื่องชาร์จรถยนต์โดยเฉพาะ จะมีคุณสมบัติในเรื่องความปลอดภัยของบ้านและรถยนต์ของเรานะคะ
วิธีการชาร์จไฟรถยนต์ที่บ้าน : เพื่อความปลอดภัยในการชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้านทุกครั้ง คือ ดับเครื่องยนต์ ปลอดล็อครถยนต์ และเสียบสายชาร์จให้ขึ้นสัญลักษณ์การชาร์จไฟ เมื่อชาร์จเต็มแล้วให้ปลดล็อครถยนต์และดึงสายเสียบออก ถึงจะถือว่าการชาร์จไฟเสร็จสมบูรณ์ การชาร์จไฟไม่จำเป็นต้องชาร์จทุกวันนะคะ แต่จะให้ขึ้นอยู่กับปริมาณการใช้งาน เพื่อเป็นการรักษารถยนต์แล้วและยังช่วยประหยัดค่าไฟที่บ้านด้วยค่ะ
ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่จุดสาธารณะ : ถึงแม้เราจะชาร์จไฟที่บ้านจนเต็มแล้วก็ตาม บางครั้งอาจจะมีเหตุจำเป็นที่ต้องใช้บริการที่ชาร์จไฟฟ้าตามจุดสาธารณะ มีจุดบริการที่ไหนเก็บเป็นข้อมูลไว้เลยนะคะ
1.สถานีอัดประจุไฟฟ้า การไฟฟ้านครหลวง (MEA)
2.สถานีอัดประจุไฟฟ้า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA)
3.สถานีอัดประจุไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิต (EGAT)
4.สถานีอัดประจุฟ้า PTT EV Station
5.สถานีอักประจุไฟฟ้า EA Anywhere
ข้อควรรู้เรื่องเวลาในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า
1. ใช้เวลาชาร์จ 12-15 ชั่วโมง หากชาร์จจากเต้ารับปลั๊กธรรมดาในบ้าน
2. ใช้เวลาชาร์จ 4-8 ชั่วโมง หากใช้เครื่องชาร์จที่บ้านสำหรับชาร์จไฟรถยนต์โดยเฉพาะ
3. ใช้เวลาชาร์จ 30 นาที ที่สถานีชาร์จสาธารณะ
.
.
อ่านบทความเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง :
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สนใจสอบถามบริการเช่ารถยนต์ไฟฟ้า (แบบเช่ารถรายวัน- แบบเช่ารถรายปี) คลิก
หรือ โทรสอบถามได้ที่ 02-291-8888 , Line : @kcar หรืิอ https://lin.ee/WD6rRjS
บริการรถเช่าระยะสั้น (รายวัน-รายเดือน) รถเช่าสำหรับองค์กร (1-5 ปี) พร้อมบริการดูแลรถยนต์ให้ท่านตลอดอายุสัญญาการเช่า ดูแลรักษาด้านรถยนต์ การซ่อมบำรุง พรบ. ประกันภัยรถยนต์ การต่อภาษีรถยนต์ประจำปี บริการรถทดแทนระหว่างซ่อม และเจ้าหน้าที่ Call Center ดูแลตลอด 24 ชม.